วันอังคารที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ประวัติโรงเรียน

โรงเรียนวัฒนโชติศรีบุญญาคม พ.ศ.2514 – พ.ศ.2536

167246_174699502572544_498848_n
     โรงเรียนวัฒนโชติศรีบุญญาคม  จัดตั้งขึ้นโดยชุมชนได้ร่วมกันจัดหาทุนเพื่อสร้างอาคารเรียน ตลอดจนอุปกรณ์การเรียนการสอน เป็นเงินจำนวน 191,207 บาท เป็นโรงเรียนมัธยมศึกษาขนาดเล็กประจำตำบล ซึ่งแต่เดิมชุมชนในท้องถิ่นได้ริเริ่มขอจัดตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2514 โดยมี ร.อ.สัญญา จูรัตน์ เป็นประธาน และ นายวิจิตร แจ่มใส่ ผู้ว่าราชการจังหวัดในครั้งนั้นให้การสนับสนุน เป็นอย่างดีก่อตั้งเมื่อ  20 มีนาคม 2520
โรงเรียนวัฒนโชติศรีบุญญาคม เป็นอาคารชั่วคราวชั้นเดียว (เป็นห้องเรียนที่มีลักษณะเป็นปูนครึ่งห้อง และปล่อยพนังส่วนบนว่าง ทำให้เวลาฝนตกนักเรียนต้องหลบไปอีกด้านหนึ่งของห้อง ไม่มีรั้ว ) ไม่มีน้ำประปา และไฟฟ้า  ได้รับความอนุเคราะห์ในเรื่องพื้นที่ ครึ่งหนึ่งเป็นของวัดศรีเรืองบุญ ครึ่งหนึ่งเป็นของวัดศรีประวัติ ตอนแรก มีนักเรียน 90 คน  มี 3 ห้องเรียน 1 ห้องน้ำ 1 ห้องพักครู และครู 2 คน
  • ปี พ.ศ.2520 เปิดรับสมัครนักเรียนในระดับชั้น ม.ศ.1 (นักเรียนที่จบ ป. 7) เป็นครั้งแรก โดยส่วนใหญ่ จะเป็นนักเรียนที่ยากจน ไม่มีเงินที่จะเดินทางไปศึกษาในกรุงเทพฯ
  • ปี พ.ศ.2522  เปิดรับนักเรียนระดับชั้น ม. 1 เพิ่มจำนวนเป็น 6 ห้องเรียน
  • ปีการศึกษา 2522 นายเติม โทพิลา ผู้ช่วยอาจารย์ใหญ่ จากโรงเรียนศรีบุญยานนท์ มาดำรงตำแหน่งครูใหญ่คนแรก
  • มีโครงการตัดถนนวงแหวนรอบนอก (กาญจนาภิเษก) ผ่านพื้นที่โรงเรียน โดยมีอาคารเรียนอยู่ตรงกึ่งกลางแนวถนนที่จะตัดผ่าน จึงมีการรื้อถอนโครงสร้างโรงเรียน และหาที่จัดสร้างโรงเรียนใหม่
โดยเจ้าอาวาสวัดแพรกได้เสนอ “วัดร้างกลางสวน” ว่าเป็นสถานที่ที่คิดว่าเหมาะสมกับการจัดตั้งโรงเรียน (ที่ตั้งของโรงเรียนในปัจจุบัน) ซึ่งอยู่ห่างจากแนวถนน 40 เมตร และเดิมมีผู้เช่าทำกินอยู่ 8 ราย แต่ทั้งหมดก็ยินยอมยกที่ดินให้โดยไม่คิดค่าตอบแทนใดๆ
การรื้อถอนใช้เวลาทั้งสิ้น 1 เดือน โดยได้รับความร่วมมือจากคณะกรรมการศึกษา ผู้อุปการะโรงเรียนและครู-อาจารย์ โดยได้สร้างเป็นอาคารชั่วคราว 2 หลัง และในวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2524 จึงได้มีการเปิดทำการสอนจนถึงปัจจุบัน
163402_174700205905807_4230226_n

โรงเรียนเทพศิรินทร์ นนทบุรี พ.ศ.2536 – ปัจจุบัน

564627_756783707668702_920347012_n
ในปี พ.ศ. 2535 นายประสงค์ ท่าพริก อาจารย์ใหญ่โรงเรียนอดุลศาสนกิจศึกษา รักษาการในตำแหน่งอาจารย์ใหญ่ ได้ดำเนินการการขอเปลี่ยนชื่อใหม่จาก “โรงเรียนวัฒนโชติศรีบุญญาคม” เป็น “โรงเรียนเทพศิรินทร์ นนทบุรี” โดยได้รับความยินยอมและสนับสนุนอย่างดีจากโรงเรียนเทพศิรินทร์ ชุมชน คณะกรรมการศึกษา ครู-อาจารย์ และสมาคมนักเรียนเก่าเทพศิรินทร์ ในพระบรมราชูปถัมภ์
จนเมื่อวันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2536 กระทรวงศึกษาธิการจึงได้อนุมัติให้เปลี่ยนชื่อโรงเรียนเป็น “โรงเรียนเทพศิรินทร์ นนทบุรี” เป็นโรงเรียนในเครือข่ายเทพศิรินทร์ ซึ่งปัจจุบันมีทั้งสิ้นด้วยกัน 10 แห่ง


โรงเรียนเซนต์โยเซฟทิพวัล


โรงเรียนเซนต์โยเซฟทิพวัล
ข้อมูล
อักษรย่อซ.ย.ท
ประเภทโรงเรียนเอกชน
คติพจน์ศึกษาดี มีวินัย ใจเมตตา ใฝ่หาคุณธรรม เลิศล้ำการงาน ”
ก่อตั้งพ.ศ. 2518
เพลงฟ้าเซนต์โย
เว็บไซต์
โรงเรียนเซนต์โยเซฟทิพวัล จังหวัดสมุทรปราการ ตั้งอยู่ที่ หมู่บ้านทิพวัล 1 ถ.เทพารักษ์ อ. เมือง จ.สมุทรปราการ เป็นโรงเรียนหนึ่งในเครือของคณะภคินีเซนต์ปอล เดอ ชาร์ตร คณะนักบวชคาทอลิกหญิงที่เดินทางมาจากฝรั่งเศสเมื่อปี พ.ศ. 2441 เข้ามาเผยแพร่ธรรมและช่วยส่งเสริมงานพัฒนาสังคมไทยด้านการศึกษา การรักษาพยาบาลและการช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ผู้ยากไร้

วันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ประวัติโรงเรียน
ประวัติโรงเรียนสมุทรปราการPDFพิมพ์อีเมล

“ ครั้น ณ วัน ๒   ๘ ค่ำ   พุทธศักราช ๒๔๒๖  พระบรมวงศ์เธอกรมพระดำรงราชานุภาพครั้งยังดำรงพระยศเป็นพระองค์เจ้าดิศวรกุมารได้เสร็จลงมาตั้งโรงเรียนหนังสือไทยขึ้นที่วัดกลาง ”

พุทธศักราช ๒๔๒๙
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ จัดตั้งโรงเรียนที่มีอยู่เดิมตามพระอารามหลวง  ให้วัฒนาถาวรขึ้นกว่าแต่ก่อน  โรงเรียนวัดกลางเมืองสมุทร  ได้รับพระมหากรุณาธิคุณในครั้งนั้นด้วย

พุทธศักราช ๒๔๖๐
กระทรวงธรรมการได้เปลี่ยนชื่อโรงเรียนวัดกลางเป็นโรงเรียนมัธยมวัดกลาง

พุทธศักราช ๒๔๙๖
กระทรวงศึกษาธิการได้ออกประกาศเปลี่ยนชื่อโรงเรียนรัฐบาลทั่วราชอาณาจักรโรงเรียนมัธยมวัดกลางจึงเปลี่ยนชื่อเป็น  โรงเรียนสมุทรปราการ*

พุทธศักราช ๒๔๙๘
กระทรวงศึกษาธิการได้อนุมัติเงิน กศส.  ซื้อที่ดินที่ถนนสุขุมวิท  ๑๗ ไร่ เป็นเงิน ๔๐๐,๐๐๐ บาท ( ราคาที่ดินจริง ๓๙๙,๕๐๐  ที่เหลือนำส่งคืน ๕๐๐  บาท )

พุทธศักราช ๒๕๑๐
ได้อนุมัติเงินงบประมาณ ให้สร้างอาคารเรียนสามชั้นขนาด ๙.๕ × ๗๒ ตารางเมตร จำนวน ๑๘ ห้องเรียน ๑ หลัง เป็นเงิน ๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท  สร้างหอประชุม  บ้านพักภารโรง  ถนนเข้าโรงเรียนและห้องสุขา  รวมเป็นเงิน  ๔๐๘,๒๐๐  บาท

พุทธศักราช ๒๕๑๑
ได้ย้ายจากนักเรียนวัดกลางไปยังโรงเรียนแห่งใหม่  เมื่อวันที่ ๑ กันยายน ๒๕๑๑
  นับเป็นวันแรกของการจัดการเรียนการสอน ณ สถานที่ตั้งโรงเรียนสมุทรปราการในปัจจุบัน

สภาพปัจจุบัน
 โรงเรียนสมุทรปราการมีอาคารถาวร ๙ หลัง  จัดการเรียนการสอนเป็น ๒ ช่วงชั้นคือ  ช่วงชั้นที่ ๓ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ – ๓ และ ช่วงชั้นที่ ๔ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ – ๖ โดยจัดชั้นเรียนเป็น ๑๒ – ๑๒ – ๑๒ และ ๑๒ – ๑๒ – ๑๒  รวม ๗๒ ห้องเรียน มีครู ๑๑๗ คนพนักงานราชการ ๑ คน นักการภารโรง ๙ คน คนสวน ๑ คน ยาม ๓ คน พนักงานขับรถ ๒ คน อัตราจ้าง ๑๙ คน

 *  จากหลักฐานทางราชการของโรงเรียนพบว่า ได้ใช้ชื่อโรงเรียนสมุทรปราการ  ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๘๖

วันเสาร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ประวัติโรงเรียนศรีวิทยาปากน้ำ


จากอดีตถึงปัจจุบันของชาวศรีใน แห่งศรีวิทยาปากน้ำ
เมื่อกล่าวถึงคำว่า “ศรีใน” ชาวปากน้ำทุกคนต้องทราบดีว่าหมายถึงอะไร เพราะศรีใน ยืนเคียงคู่กับเมืองปากน้ำสมุทรปราการมาเป็นเวลาถึงห้าสิบปี ทุกคนที่เป็นชาวปากน้ำโดยกำเนิดแล้วย่อมไม่มีใครที่จะไม่รู้จัก “ศรีใน”


“ศรีใน” เป็นสถานศึกษาที่มีชื่อเดิมว่า โรงเรียนอนุบาลศรีวิทยา แต่ชาวปากน้ำจะเรียกกันสั้นๆจนติดปากว่า “ศรีใน” โรงเรียน “ศรีใน” ถือกำเนิดเมื่อ 14 กรกฎาคม 2498 จากอดีตจนถึงปัจจุบัน “ ศรีใน” ไม่ได้หยุดอยู่ ณ ที่เดิม ได้มีการเปลี่ยนแปลงปรับปรุง และพัฒนาโรงเรียน การเรียนการสอนและกิจกรรม ไม่เคยหยุดอยู่กับที่มาโดยตลอด จากอาคารไม้ชั้นเดียว หลังเดียว เปิดสอนระดับชั้นอนุบาล 1-2 ในปี พ.ศ. 2498 มี คุณครูนิตยา ทองคง เป็นคุณครูใหญ่คนแรก หลังจากนั้นมาอีกไม่นานนัก ได้ก่อสร้างอาคารไม้สองชั้นเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งอาคาร และยังมีอาคารชั้นเดียวอีกหนึ่งหลังซึ่งอาคารหลังที่สามนี้ชาวศรีในเราจะเรียกกันว่า “โรงช้าง” ในปี พ.ศ. 2500 ได้ขยายจากระดับชั้นอนุบาลจนถึงประถมปีที่ 7 ตามหลักสูตรการศึกษาภาคบังคับในขณะนั้น ต่อมาคุณครูนิตยาได้ลาออก คุณครูใหญ่คนที่ 2 คือคุณครูเอื้อนจิตต์ สวัสดิโกศล ในขณะที่ โรงเรียนขยายชั้นเรียนจำนวนครูไม่เพียงพอ จึงได้มีการย้ายคุณครูบางท่านจากโรงเรียนศรีนอกมาสอนที่โรงเรียนศรีใน เช่น คุณครูกมล โพธิ์ศรี, คุณครูจำรัส บวรศิวมนต์ ต่อมาหลักสูตรการศึกษาภาคบังคับได้เปลี่ยนแปลงมีการลดระดับชั้น ป.7 ลงไปเหลือเพียงระดับชั้น ป.6 แต่จำนวนนักเรียนของโรงเรียนเราก็ไม่เคยลดลง คงเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ เปลี่ยนแปลงคุณครูใหญ่จากคุณครูเอื้อนจิตต์เป็น คุณครูประยงค์ เย็นอาคาร ต่อมา เมื่อบุตรสาวของ คุณยายไสววงศ์ สุขศรีได้สำเร็จการศึกษามาจากต่างประเทศ ก็ได้เข้ามาช่วยสอนที่โรงเรียนศรีในด้วย ต่อมาคุณครูประยงค์ เย็นอาคาร ลาออก คุณครูศรีสกุล กฤษณจินดา ซึ่งเป็นบุตรสาวของคุณยายไสววงศ์ สุขศรี เป็นครูใหญ่คนที่ 4 และเป็นครูใหญ่มาจนถึงปัจจุบัน ในปี พ.ศ. 2515 ทางราชการไม่อนุญาตให้ใช้ตัวเลขเป็นชื่อโรงเรียน โรงเรียนศรีวิทยา 2 ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น “โรงเรียนศรีวิทยาปากน้ำ” จนทุกวันนี้


ผู้ก่อตั้งโรงเรียนศรีในก็คือ คุณยายไสววงศ์ สุขศรี ท่านได้ขยายโรงเรียนมาจากโรงเรียนศรีนอก ซึ่งคุณยายสืบ ศรีวรรธนะ ซึ่งเป็นพี่สาว ได้ก่อตั้งโรงเรียนศรีนอกมาก่อน เปิดสอนในระดับชั้นประถมศึกษา เนื่องจากสถานที่คับแคบ คุณยายไสววงศ์ จึงได้แยกตัวออกมาก่อตั้งโรงเรียนศรีใน เริ่มแรกเปิดสอนเฉพาะระดับชั้นอนุบาล เมื่อนักเรียนเรียนจบระดับชั้นอนุบาลจากศรีใน ก็จะส่งไปเรียนในระดับชั้นประถมศึกษาต่อที่โรงเรียนศรีนอก ศรีในกับศรีนอกจึงเดินเคียงคู่กันมา ต่อมาโรงเรียนศรีนอกไม่สามารถขยายชั้นเรียนได้ เนื่องจากสถานที่คับแคบ โรงเรียนศรีในจำเป็นต้องขยายชั้นเรียนในระดับชั้นประถมศึกษา มีนักเรียนมากขึ้นตามลำดับ จากความทรงจำของข้าพเจ้าย้อนหลังไปเมื่อ 30 กว่าปีที่ผ่านมาในเนื้อที่ 2 ไร่เศษ เรามีอาคารเรียน 3 หลัง ดังได้กล่าวไว้แล้วข้างต้น


เรามีศาลาเอนกประสงค์ตั้งอยู่หน้าอาคารไม้ติดกับห้องครูใหญ่ เป็นสถานที่ซึ่งมีไว้สำหรับจัดกิจกรรมต่างๆให้กับนักเรียนหลายๆกิจกรรม ต่อมาในปี พ.ศ 2531 อาคารเรียนหลังเก่าแต่ดั้งเดิมถูกรื้อถอนออกไป อาคารเรียน 2 ชั้นทางด้านทิศเหนือถูกตัดออกไป 1 ห้องเรียนแล้วเกิดอาคารเรียนหลังใหม่ขึ้นมาแทนที่เป็นตึกสูงสง่า 5 ชั้น (ปัจจุบันเรียกว่าอาคาร 1) มีศาลา ประสบสุข อยู่หน้าอาคารหลังใหม่ใช้เป็นสถานที่ให้นักเรียนได้เรียนรู้ในวิชาคหกรรมศาสตร์ ทางด้านทิศตะวันตกของศาลาประสบสุขมีลานเอนกประสงค์ มีต้นไม้ปลูกไว้อย่างร่มรื่น ได้นั่งพักผ่อนในตอนกลางวัน ต่อมาในปีพ.ศ 2537 โรงช้าง ถูกรื้อถอนออกไปอีก 1 หลังพร้อมด้วยบ้านพักครูใหญ่ และอาคารไม้ 2 ชั้นทางด้านทิศใต้ก็ถูกตัดออกไปอีก 1 ห้องเรียน มีอาคารหลังใหม่เกิดขึ้นมาแทนที่เป็นตึก 6 ชั้น เมื่อปี พ.ศ. 2538 ซึ่งปัจจุบันเราเรียกว่าอาคาร 3 และมีอาคาร 2 อยู่ด้านหลังต่อจากอาคาร 3 มีชั้นละ 2 ห้องเรียน ซึ่งมีโครงการจะสร้างต่อ แต่มีวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2540 การก่อสร้างจึงต้องหยุดชะงักลง ได้เมื่ออาคาร 3 สร้างเสร็จอย่างสมบูรณ์ อาคารไม้ 2 ชั้นตรงส่วนที่เหลือก็ถูกรื้อถอนออกไปจนหมดสิ้น ในปีพ.ศ 2540 และได้ปรับปรุงสถานที่เป็นสนาม อย่างที่เห็นในปัจจุบัน ในอาคาร 1 นั้น ปัจจุบันนี้ประกอบไปด้วย ชั้นที่ 1 เป็นห้องประชุม ชั้น 2 เป็นห้องเรียนของนักเรียนอนุบาล 3, ห้องพยาบาลและห้องดนตรี ชั้น 3 เป็นห้องเรียนของชั้น ป.2 ชั้น 4 เป็นห้องเรียนของ ป.3 และชั้น 5 เป็นโรงฝึกพลศึกษาและใช้จัดกิจกรรมต่างๆ ส่วนในอาคาร 3 นั้น ชั้น 1 จะเป็นห้องครัวและห้องเรียนของชั้นอนุบาล 1 และ 2 ชั้น 2 เป็นห้องเรียนของชั้นอนุบาล 2 อนุบาล 3 ห้องธุรการ และห้องเอกสาร ชั้นที่3 เป็นห้องเรียนของชั้น ป.1 และ ป.4 ชั้น 4 เป็นห้องเรียนของชั้น ป.4, ป.5, ม.1 และ ม.2 ชั้น 5 เป็นห้องเรียนของช้น ป.6, ม.3, ห้องสมุด และห้องพักครู ในอาคารเรียนแต่ละชั้นจะมีห้องส้วม ชาย- หญิง สำหรับนักเรียนอยู่ในตัวอาคารเรียน มีน้ำดื่มที่สะอาดบริการให้กับนักเรียน ส่วนชั้นที่ 6 เป็นห้องคอมพิวเตอร์ และศูนย์เทคโนโลยีที่ทันสมัยสำหรับนักเรียนได้เข้าไปเรียนรู้ และในเวลาพักกลางวันนักเรียนก็สามารถเข้าไปหาความเพลิดเพลิน หรือหาความรู้ได้ในห้องคอมพิวเตอร์ของเราได้ทุกวัน และในห้องเรียนแต่ละห้องก็มีเครื่องคอมพิวเตอร์ไว้ให้ห้องเรียนละ 1 เครื่องอีกด้วย สำหรับให้นักเรียนได้ใช้ในเวลาว่าง ส่วนในห้องเรียนของอนุบาลจะมีไว้ให้ห้องละ 2-3 เครื่อง พร้อมทั้งมีโทรทัศน์ให้อีกห้องละ 1 เครื่องด้วย
นอกจากอาคารเรียนที่ทันสมัยและตัวบุคคลากรภายในโรงเรียนรวมถึงตัวครูทุกท่านในโรงเรียนแต่ละคนมีการพัฒนา ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมอยู่ตลอดเวลา ครูของเราทุกคนมีความสามารถและความชำนาญในการสอนกันทั้งสิ้น จะเห็นได้ว่าครูบางท่านทำการสอนมาเป็นเวลาเกือบเท่าอายุของโรงเรียนก็มี ปัจจุบันท่านก็ยังสอนยู่ เช่น คุณครูสนวน มุ่งสวัสดิ์, คุณครูกมล โพธิ์ศรี, คุณครูจำรัส บวรศิวมนต์ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีคุณครูอีกหลายๆท่านที่ทำการสอนมาเป็นเวลา 20 กว่าปี ถึง 30 กว่าปี เฉลี่ยอายุของครูโรงเรียนศรีในแล้วประมาณ 35 ปี มีคำถามถามว่าทำไมครูที่นี่ถึงอยู่กันได้นาน ครูทุกคนมีคำตอบเหมือนๆกันว่าเราอยู่ได้นานเพราะเรามีผู้บริหารที่ดี มีน้ำใจ มีความโอบอ้อมอารีต่อคณะครูทุกท่านเสมอมา เราอยู่กันอย่างพี่อย่างน้อง ไม่ใช่อยู่กันแบบหัวหน้ากับลูกน้อง เรามีการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น มีการเสนอแนะซึ่งกันและกัน และศรีในมีสวัสดิการที่ดีให้กับบุคคลากรในโรงเรียนเสมอมา
ปัจจุบันนี้โรงเรียนศรีวิทยาปากน้ำตั้งอยู่เลขที่ 58 ถนนเทศบาล 4 ตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองฯ จังหวัดสมุทรปราการ รหัสไปรษณีย์ 10270 โทรศัพท์ 02- 702-7808-9 โทรสาร 0-2-389-1103 สังกัดสำนักบริหารงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน เปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลปีที่ 1 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ประกอบด้วยคณะผู้บริหารดังนี้
นางไสววงค์ สุขศรี ผู้รับใบอนุญาต
นางศิริสุข รุ่งเรือง ประธานคณะกรรมการอำนวยการสถานศึกษา
นางสาวเอื้ออารี สุขศรี ผู้จัดการโรงเรียน
นางศรีสกุล กฤษณจินดา ครูใหญ่

ในด้านของ นักเรียน จำนวนนักเรียนเรามีเพิ่มขึ้นทุกปีจากเมื่อ 30 ปีก่อน มีนักเรียนประมาณ 400 คน แล้วเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ จนปัจจุบันเรามีนักเรียน 1,700 กว่าคน มีคุณครู 80 กว่าท่าน มีคุณครูต่างชาติประจำศูนย์เทคโนโลยี 1 ท่าน และยังมีชาวอังกฤษ และอเมริกัน หมุนเวียนกันเข้ามาสอนทุกปีๆละ 4-5 ท่าน ในปีการศึกษานี้มีชาวอเมริกันมาสอนอยู่ 2 ท่าน ซึ่งได้บรรจุเป็นครูสอนตั้งแต่ปีที่แล้ว และขออยู่สอนต่อในปีนี้อีก ท่านผู้ปกครองหลายๆท่านเคยเป็นศิษย์เก่าของศรีในเมื่อหลายปีมาแล้ว เมื่อท่านมีบุตรก็ส่งบุตรหลานเข้ามาเรียนที่นี่อีกเพราะเหตุใดท่านคงประจักษ์เป็นอย่างดี เพราะตัวของครูเองก็เคยสอนทั้งพ่อและแม่ของนักเรียนหลายๆคนในปัจจุบันมาแล้ว บางคนสอนแม่แล้วก็สอนลูก และลูกก็จบไปหลายปีแล้ว ต่อไปก็คงจะได้สอนหลานของลูกศิษย์อีกแน่นอน
ตัวของข้าพเจ้าเองเป็นลูกศิษย์ของโรงเรียนศรีวิทยาในอดีตเมื่อประมาณ 50 กว่าปีมาแล้ว แต่เป็นศิษย์ศรีนอก เมื่อจบการศึกษาได้มีโอกาสเข้ามาสอนอยู่โรงเรียนศรีใน เป็นโรงเรียนแรกที่ได้เข้ามาเป็นครู และสอนมาถึงปัจจุบัน เป็นเวลา 34 ปีแล้ว บุตรของข้าพเจ้าทุกคนได้เข้ามาศึกษาเล่าเรียนเป็นลูกศิษย์ของ “ศ.ว.ป” ทุกคน และปัจจุบันหลานของข้าพเจ้าก็ได้เข้ามาเป็นลูกศิษย์ของ “ศ.ว.ป” เช่นเดียวกับพ่อของเขาเพราะที่นี่เปรียบเสมือนกับบ้านหลังที่สองของเรา สมาชิกในครอบครัวได้ใช้ชีวิตในสถานศึกษาแห่งนี้คนละหลายๆปี ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ที่นี่เป็นโรงเรียนแรกและก็คงจะเป็นโรงเรียนสุดท้ายของการสอนของข้าพเจ้าเช่นเดียวกัน ตราบใดที่ข้าพเจ้ายังมีแรงสอนก็คงจะสอนต่อไปและต้องการที่จะเห็นการพัฒนาของโรงเรียนไปเรื่อยๆ ปัจจุบันโรงเรียน “ศรีใน” หรือ “ศรีวิทยาปากน้ำ” ได้รับการตรวจอยู่ในระดับ 3 จาก ส.ม.ศ ตั้งแต่ปีการศึกษา 2547 และโรงเรียนของเราก็จะรักษาคุณภาพนี้ไว้ตลอดไป

วันศุกร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2557

โรงเรียนสตรีสมุทรปราการ
ตราสัญลักษณ์ประจำโรงเรียนสตรีสมุทรปราการ
ปัญฺญา นรานํ รตนํ
ปัญญาเป็นแก้วของนรชน
489 ถนนสุขุมวิท ตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ 10270
ข้อมูล
ชื่ออังกฤษStreesmutprakan School
อักษรย่อส.ส.ป.
ประเภทโรงเรียนรัฐบาล
สถาปนาพ.ศ. 2481
ผู้ก่อตั้งพระยาราชายสาธก (ง่วนสุน อัศวนนท์)
รหัส1001110102 (ใหม่)
01110102 (เก่า)
ผู้อำนวยการนางสาวปฏิมา พูนทรัพย์
เพลงเพลงประจำโรงเรียนสตรีสมุทรปราการ
สังกัดการศึกษาสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 6 ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
เว็บไซต์
โรงเรียนสตรีสมุทรปราการ เป็นโรงเรียนรัฐบาลประเภทโรงเรียนมัธยมศึกษาขนาดใหญ่พิเศษ ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 6 (ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ) (สังกัดเดิมคือสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสมุทรปราการ เขต 1)สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกระทรวงศึกษาธิการ ตั้งอยู่บริเวณถนนสุขุมวิทตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ เปิดสอนในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลายแบบสหศึกษา และเป็นโรงเรียนสตรีประจำจังหวัดสมุทรปราการคู่กับโรงเรียนสมุทรปราการ[1]
 
 
 
โรงเรียนอัสสัมชัญสมุทรปราการ เดิมชื่อ โรงเรียนอัสสัมชัญสำโรง เป็นสถาบันการศึกษา
ลำดับที่ 13 ของมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทย เปิดทำการสอนวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ.2522 โดยนายวิชัย มาลีนนท์  ประธานกรรมการบริษัท เทพารักษ์ที่ดิน จำกัด
ได้บริจาคที่ดินจำนวน 14 ไร่ 3 งาน 54 ตารางวา พร้อมเงิน จำนวน 3,000,000 บาท (สามล้านบาทถ้วน) ให้แก่มูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทย
เพื่อดำเนินการก่อตั้ง “โรงเรียนอัสสัมชัญสำโรง” ขึ้น โดยตั้งชื่อตามตำบลสำโรงเหนือในขณะนั้น
เริ่มแรกเปิดทำการสอนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงประถมศึกษาปีที่ 6 รวม 8 ห้องเรียน
มีครู 15 คน นักเรียน 371 คน ต่อมาเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ.2533 กระทรวงมหาดไทยประกาศเปลี่ยนแปลงเขตการปกครอง โรงเรียนอัสสัมชัญสำโรงจึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น “โรงเรียนอัสสัมชัญสมุทรปราการ”
เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ.2546
  

ปัจจุบันโรงเรียนอัสสัมชัญสมุทรปราการมีเนื้อที่ 23 ไร่ 2 งาน 12.5 ตารางวา เปิดสอนนักเรียนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
ทั้งหลักสูตร Modern Language Program (MLP) และหลักสูตร English Program (EP)
รวม 88 ห้องเรียน โดยมีภราดา ผศ.ดร.วินัย วิริยวิทยาวงศ์ เป็นผู้รับใบอนุญาต ผู้จัดการและเป็นผู้อำนวยการ ภายใต้การดูแลของภราดาศิริชัย ฟอนซีกา อธิการเจ้าคณะเซนต์คาเบรียลแขวงประเทศไทยคนปัจจุบัน
 
  
Assumption Samutprakarn School (previously Assumption College Samrong), the thirteenth educational institution founded by the Brothers of St. Gabriel, was started on May 17, 1979. Mr. Wichai Maleenont, director of Theparak Estate Company, Ltd., donated 14.75 rai, 108 square meters of land and three million baht to the Brothers of St. Gabriel for the purpose of establishing, “Assumption College Samrong,” named after the district in which it was located at that time.
In our first academic year, the school consisted of 8 classrooms, 15 teachers
and 371 students, and offered classes from primary one through primary six. On
August 18, 1990, the Ministry of the Interior changed the district of administration,
so on May 1, 2003, the name, Assumption College Samrong, was changed to,
Assumption College Samutprakarn. In 2008 the name was again changed toAssumption Samutprakarn School.

 
  Assumption Samutprakarn School has grown and currently  has 23.5 rai, 25
square meters of land and is providing an education for students from primary one though secondary six in eighty-eight classrooms. The school also has a Modern
Language Program (MLP), and an English Program (EP)
, which give our students a wonderful opportunity to become proficient in the world’s international language, English. The School and all its programs are under the directorship of Asst. Prof. Dr. Vinai Viriyavidhayavongs fsg. and the Provincial Superior, Brother Sirichai Fonseka, Superintendent.

 
 
     ปรัชญา / Philosophy
  
 
1. จุดมุ่งหมายของชีวิตคือการรู้จักสัจธรรมและการเข้าถึงองค์สัจธรรมสูงสุด ซึ่งเป็นบ่อเกิดของชีวิต
2. มนุษย์ทุกคนต้องทำงาน ความวิริยะอุตสาหะ เป็นหนทางไปสู่ความสำเร็จ
1. The goal of life is to realize spiritual truth which will lead to a new spiritual life.
2. All mankind needs to work, diligence leads to success.

 
      วิสัยทัศน์ / Vision
  
 
โรงเรียนมีมาตรฐานการศึกษาระดับสากล พัฒนาตนสู่คุณภาพชีวิต ตามวิถีจิตนักบุญมงฟอร์ต
The school provides education at the international standard and quality of life in
accordance with Saint Montfort's spirituality.

 
      คติพจน์ / Motto of the Brothers of Saint Gabriel
  
 
ความวิริยะอุตสาหะ นำมาซึ่งความสำเร็จ
Labor Omnia Vincit (Work Conquers All.)
 
      คำขวัญ / Motto
 
 
ความรู้ คู่คุณธรรม นำชีวิต
is guided by knowledge and virtue.
 
      อัตลักษณ์ / Identity
  
 
รักดี มีวินัย ใส่ใจสังคม มีวิริยะอุตสาหะและยึดมั่นในสัจธรรม
Be Smart, Disciplined, Social Conscious, Work Hard, Persevere and Abiding by the Truth.
 
      เอกลักษณ์ / Uniqueness
  
 
มุ่งสู่มาตรฐานสากล
Towards International Standard
 
     อักษรย่อ อ ส ช
  
 
อ ส ช ย่อมาจาก อัสสัมชัญ หรือ "อาศรมชัญ" แยกเป็นศัพท์บาลีมคธว่า "อัสสโม" แผลงเป็นไทยว่า "อาศรม" หมายความถึง
กุฏิที่ถือศีลบำเพ็ญ ส่วนคำว่า "ชัญ" หรือ "ชัญญ" แยกตามรากศัพท์เดิมได้ธาตุศัพท์ว่า "ช" แปลว่า "ที่เกิด" และ "ญ" แปลว่า
"ญาณ" หรือ ความรู้ "ชัญ" หรือ "ชัญญ" คือ ที่เกิดญาณความรู้ เมื่อนำศัพท์ทั้งสองมารวมกันก็สามารถแปลได้ว่า "อัสสัมชัญ"
คือ "สถานที่สำหรับบำเพ็ญพรตและหาวิชาความรู้" นั่นเอง โดยยังคงความหมายภาษาอังกฤษ "Assumption" ว่าการได้รับ
เกียรติยกขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณของพระนางมารีอา พระมารดาของพระเยซูคริสตเจ้า
 
      สีประจำโรงเรียน แดง–ขาว
  
 
สีแดง หมายถึง
ความกล้าหาญในการต่อสู้กับอุปสรรคปัญหาต่างๆ รวมทั้งความเสียสละอดทน ซึ่งก็คือความวิริยะ อุตสาหะ
 ที่จะนำชีวิตให้ประสบกับความสำเร็จ
  
สีขาว หมายถึงความบริสุทธิ์อันเปรียบได้กับศาสนารวมไปถึงความจริงใจ ซื่อสัตย์ อันเป็นคุณธรรมซึ่งจะนำไปสู่ความสงบสุข
 
      ดอกไม้ประจำโรงเรียน : ดอกนนทรี
  
 
นนทรี เป็นพืชยืนต้นผลัดใบ ขึ้นได้ในทุกพื้นที่ เติบโตเร็ว แข็งแรง เป็นพืชสมุนไพร และเนื้อไม้มีราคา ดอกสีเหลืองสด ช่อสูงเป็นทรงเจดีย์
วงชีวิตและการเติบโตของต้นนนทรี ให้ข้อคิดแก่นักเรียนว่า การผลัดใบ คือ การเปลี่ยนระดับชั้นการศึกษาไปสู่การเติบโตที่กล้าแกร่งกว่าเดิม
ดอกสีเหลืองสด คือ ความสดชื่นแห่งวัย ช่อสูงเป็นทรงเจดีย์ยอดแหลม คือ การสร้างรากฐานการศึกษาที่มั่นคงสามารถให้ความรู้แก่นักเรียน
เพียบพร้อมด้วยคุณธรรม จริยธรรม ความกล้าแห่งปัญญา เพื่อออกไปสร้างสรรค์สังคมและประเทศชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ
 
    อาคารต่างๆภายในโรงเรียน
  
 
ปัจจุบันโรงเรียน มีอาคาร 8 หลัง เป็นอาคารเรียน 4 หลัง อาคารอำนวยการ 1 หลัง อาคารกิจกรรม 2 หลัง หอประชุม
และโภชนาคาร 1 หลัง อาคาร SPORT CENTER 1 ห
   
 อาคารอัสสัมชัญ เป็นอาคารเรียนสูง 4 ชั้น ชั้นล่าง เป็นห้องวัดและประเมินผล ห้องสำนักผู้อำนวยการ ห้องศูนย์วิทยสนเทศและห้องฝึกอบรม ห้องฝ่ายวิชาการ ห้องวารสาร ห้องโสตทัศนูปกรณ์ และห้องสมุดระดับมัธยมศึกษา ชั้น 2-4 เป็นห้องเรียนและห้องพักครู
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 - มัธยมศึกษาปีที่ 6 ห้องปฏิบัติการชีววิทยา เคมี และฟิสิกส์
 
  
 
อาคารเซนต์คาเบรียล เป็นอาคารสูง 5 ชั้น ชั้นล่างเป็นโถงโล่งสำหรับจัดกิจกรรม ประชุม ห้องสมุดระดับประถมศึกษา ห้องสมุด EP
ห้อง Discovery Center ห้อง Academic Affairsand Head of EP
ห้อง Disciplinary Affairs , Staff Room 3 ห้อง
ห้องพยาบาล ห้องประชุม ห้อง Student Affairs และห้องForeign Teacher Co-ordinator ชั้น 2-4 เป็นห้องเรียนนักเรียนEP ห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ ห้องเรียนคอมพิวเตอร์ ชั้น 5ห้องนาฏศิลป์ ห้องดนตรีไทยและห้องดุริยางค์
 
  
 
อาคารอำนวยการ เป็นอาคาร 2 ชั้น ที่เชื่อมระหว่างอาคารอัสสัมชัญกับอาคารมงฟอร์ต ชั้นล่างใช้เป็นสำนักงานแผนกธุรการ
งานประชาสัมพันธ์ งานทะเบียนนักเรียน งานสมาคมผู้ปกครองและครูฯ
งานสมาคมศิษย์เก่าฯ ห้องงานมาตรฐาน ชั้น 2 เป็นห้องผู้อำนวยการ ห้องรับรอง ห้องตรวจสอบ สำนักงานแผนกการเงินและห้องประชุมอำนวยการ
 
  
 
อาคารมงฟอร์ต เป็นอาคารสูง 6 ชั้น สร้างขึ้นพร้อมกับอาคารอำนวยการ ชั้นล่างเป็นโถงโล่งสำหรับทำกิจกรรม ห้องฝ่าย
ปกครองและห้องงานซ่อมบำรุง ชั้น 2-6 เป็นห้องเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 - มัธยมศึกษาปีที่ 3 ห้องพักครูกลุ่มสาระฯ คณิตศาสตร์ ภาษาไทย สังคมศึกษาฯ
ภาษาอังกฤษ คอมพิวเตอร์และห้องเรียนคอมพิวเตอร์ ทุกชั้นมีห้องน้ำอยู่ในตัวอาคาร
 
 
อาคารหลุยส์ มารี เป็นอาคารสูง 4 ชั้น ชั้น 1-2 เป็นโภชนาคาร ห้องประชุม 2001 และสโมสรครู ชั้น 3 เป็นห้อง
ประชุมมาลีนนท์ 2009 ห้องเกียรติยศ ห้องพัฒนาหุ่นยนต์ (Robot) ห้องรักษ์ภาษา ห้องปฏิบัติการคณิตศาสตร์ ห้อง Learning Center
ห้องเศรษฐกิจพอเพียง ห้องศาสนสัมพันธ์ และห้องวิถีไทย ชั้น 4 เป็นหอประชุมรัชตสมโภช
 
  
 
อาคารหลุยส์ ชาแนล เป็นอาคารสูง 5 ชั้น ชั้นล่าง เป็นห้องเกียรติยศ ชั้น 2-5 เป็นห้องเรียนและห้องพักครู ระดับประถมศึกษาปีที่ 1-4
ชั้น 6 เป็นห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ ห้องคอมพิวเตอร์ และห้องดนตรีสากล ทุกชั้นมีห้องน้ำในตัวอาคารอาคารกิจกรรม เป็นอาคารชั้นเดียว ประกอบด้วยมินิมาร์ท ห้องจัดซื้อ ห้องพัสดุ ห้องฝ่ายบริการ ห้องฝ่ายกิจกรรม ห้องแนะแนว ห้องลูกเสือ ห้องพักครูกลุ่มสาระฯ สุขศึกษาและพลศึกษา ด้านตรงข้ามเป็นห้องงานอภิบาล ห้องออกกำลังกาย ห้องเรียนสีเขียว ห้องการงานพื้นฐานอาชีพ และห้องเรียนศิลปะ
 
  
 
อาคาร SPORT CENTER เป็นอาคารหลังคารูปโดมสูง ใช้เป็นสถานที่ทำกิจกรรม ประชุม ออกกำลังกายและเล่นกีฬา ซึ่งประกอบ
ด้วยสนามกีฬาบาสเกตบอล 2 สนาม และสนามฟุตซอล 2 สนาม ภายในติดตั้ง Score Board รายงานผลการแข่งขัน
ด้วยระบบตัวเลข Digital จำนวน 2 ตัว